ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง“คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนใต้” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-20 ตุลาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,001 หน่วยตัวอย่างเกี่ยวกับคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนใต้ การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่าง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนใต้จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 23.94 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ ซื่อสัตย์สุจริต มีความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบและต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง อันดับ 2 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร(พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรได้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร อันดับ 3 ร้อยละ 12.79 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 4 ร้อยละ 11.24 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ ต้องการ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล อันดับ 5 ร้อยละ 6.14 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต และชื่นชอบวิธีการทำงาน อันดับ 6 ร้อยละ 5.95 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา และชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 7 ร้อยละ 5.30 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และเป็นคนสุขุมรอบคอบ
อันดับ 8 ร้อยละ 5.10 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบนโยบายของพรรค ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ
อันดับ 9 ร้อยละ 4.00 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ ชื่นชอบนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เป็นคนพูดจริงทำจริง และลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง อันดับ 10 ร้อยละ 2.90 ระบุว่าเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) เพราะ เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องอันดับ 11 ร้อยละ 2.40 ระบุว่าเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (พรรคสร้างอนาคตไทย) เพราะ มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และมีประสบการณ์ด้านการบริหาร
อันดับ 12 ร้อยละ 1.50 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย เป็นคนสุขุมรอบคอบและชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา อันดับ 13 ร้อยละ 1.10 ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพราะ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน
ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบแนวคิดและวิธีการทำงาน และร้อยละ 4.40 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา(พรรคชาติไทยพัฒนา) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) นายเศรษฐา ทวีสินและไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับพรรคการเมืองที่คนใต้มีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 27.49 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 2 ร้อยละ 14.94 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.09 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ และยังไม่ตัดสินใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 4 ร้อยละ 11.84 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 5 ร้อยละ 7.45 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 6 ร้อยละ 3.60 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติ อันดับ 7 ร้อยละ 3.10 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.50 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคไทยสร้างไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 9 ร้อยละ 1.05 ระบุว่าเป็น พรรคกล้า อันดับ 10 ร้อยละ 1.00 ระบุว่าเป็น พรรคสร้างอนาคตไทย
และร้อยละ 2.35 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยภักดี พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยศรีวิไลย์พรรครวมพลัง (พรรครวมพลังประชาชาติไทย) พรรคเศรษฐกิจใหม่ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่คนใต้มีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 27.64 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 2 ร้อยละ 15.54 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.54 ระบุว่าเป็น ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 4 ร้อยละ 12.49 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 5 ร้อยละ 11.89 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 6 ร้อยละ 6.95 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 3.15 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทยอันดับ 8 ร้อยละ 2.75 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติ อันดับ 9 ร้อยละ 1.40 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคไทยสร้างไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน
อันดับ 10 ร้อยละ 1.05 ระบุว่าเป็น พรรคกล้า และพรรคสร้างอนาคตไทยในสัดส่วนที่เท่ากัน และร้อยละ 2.15 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคไทยภักดี พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรครวมพลัง (พรรครวมพลังประชาชาติไทย) พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจไทย และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับข้อมูลเปรียบเทียบผลการสำรวจโปรดดูจากตารางเมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 48.38 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.62 เป็นเพศหญิง ตัวอย่าง ร้อยละ 15.09 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.59 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.54 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.84 อายุ46-59 ปี และร้อยละ 20.94 อายุ 60 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 78.26 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 21.34 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.40 นับถือศาสนาคริสต์และอื่น ๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.03 สถานภาพโสด ร้อยละ 62.42 สมรส และร้อยละ 2.55 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่
ตัวอย่าง ร้อยละ 20.39 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 35.33 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าร้อยละ 8.30 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 31.53 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ4.45 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 11.65 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 12.74 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.84ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ14.89 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 12.24 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 20.09 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 6.55 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ตัวอย่าง ร้อยละ 22.04 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 19.29 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 30.53 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.69 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.15 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 4.40 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 6.90 ไม่ระบุรายได้