โฆษกรัฐบาลวอน อย่าแปลคำพูดนายกฯ เกินความหมาย ชี้ “สวดมนต์” นายกฯ มีเจตนาเพื่อให้คลายความทุกข์ นิด้าโพลชี้คะแนนนิยมนายกฯลดลงต่อเนื่อง

Ittipan Buathong

โฆษกรัฐบาลวอน อย่าแปลคำพูดนายกฯ เกินความหมาย ชี้ “สวดมนต์” นายกฯ มีเจตนาเพื่อให้คลายความทุกข์ นิด้าโพลชี้คะแนนนิยมนายกฯลดลงต่อเนื่อง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากพายุเตี้ยนหมู่อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนจนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ 27 จังหวัดได้รับผลกระทบน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม จะยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคกลางตอนล่าง โดยเฉพาะ 12 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานคร ขอให้มีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริษัทห้างร้าน หรือการเพาะปลูก/เลี้ยงสัตว์ เตรียมขนย้ายของขึ้นที่สูงและระมัดระวังการสัญจรทางน้ำ

โฆษกรัฐบาลวอน อย่าแปลคำพูดนายกฯ เกินความหมาย ชี้ “สวดมนต์” นายกฯ มีเจตนาเพื่อให้คลายความทุกข์ นิด้าโพลชี้คะแนนนิยมนายกฯลดลงต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม โดยเฉพาะหลายพื้นที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังอาจมีน้ำป่าไหลหลากที่จะส่งผลให้น้ำท่วมเฉียบพลันได้ ขอให้กระทรวง หน่วยงาน เร่งให้การช่วยเหลือดูแล โดยเฉพาะสถานที่เปราะบาง เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วัด ศาสนสถาน รวมถึงพื้นที่สาธารณประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้รับความเสียหายด้วย พร้อมทั้งยังฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทหาร รวมถึงจิตอาสา กู้ภัย ที่ร่วมกันปฏิบัติงานท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบากด้วย

นายธนกรกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอความเป็นธรรมให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย ในฐานะโฆษกรัฐบาลได้ติดตามนายกฯ ลงพื้นที่ ล่าสุดได้ร่วมตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมสุโขทัย ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกสวดมนต์ไล่น้ำ แต่มีเจตนาให้ทำทุกอย่างเพื่อให้คลายความทุกข์ พร้อมรับสถานการณ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ทุกมาตรการ ยังเตรียมลงพื้นที่ จ. ชัยภูมิ และจังหวัดอื่น ๆ ภายในสัปดาห์นี้ด้วย

โฆษกรัฐบาลวอน อย่าแปลคำพูดนายกฯ เกินความหมาย ชี้ “สวดมนต์” นายกฯ มีเจตนาเพื่อให้คลายความทุกข์ นิด้าโพลชี้คะแนนนิยมนายกฯลดลงต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/2564” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 – 23 กันยายน 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,018 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.61 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 17.54 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ แก้ไขปัญหาได้ดี ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก อันดับ 3 ร้อยละ 11.15 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะ ที่ผ่านมาเคยบริหารงานได้ดี มีผลงานที่โดดเด่น ใส่ใจประชาชนและมีประสบการณ์การทำงาน อันดับ 4 ร้อยละ 11.05 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ เป็นนักบริหารงานที่ดี มีภาวะผู้นำสูง มีวิสัยทัศน์ที่ดี มองการณ์ไกล และมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน อันดับ 5 ร้อยละ 9.07 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ บริหารงานอย่างตรงไปตรงมา และมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน อันดับ 6 ร้อยละ 7.48 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 7 ร้อยละ 2.58 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง วางตัวดี มีความรู้ความสามารถ และมีวิสัยทัศน์ที่ดี อันดับ 8 ร้อยละ 2.33 ระบุว่าเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ และจริงจังกับการทำงาน อันดับ 9 ร้อยละ 1.54 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ ชื่นชอบแนวคิดการทำงาน มีวิสัยทัศน์ที่ดี และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อันดับ 10 ร้อยละ 1.24 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา และชื่นชอบในการทำงาน และร้อยละ 3.41 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายวันมูหะมัดนอร์   มะทา (พรรคประชาชาติ) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา)   นายชวน หลีกภัย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร นายสุทิน คลังแสง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน

และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/64 เดือนมิถุนายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายกรณ์ จาติกวณิช และนายอนุทิน ชาญวีรกูล มีสัดส่วนลดลง ในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

โฆษกรัฐบาลวอน อย่าแปลคำพูดนายกฯ เกินความหมาย ชี้ “สวดมนต์” นายกฯ มีเจตนาเพื่อให้คลายความทุกข์ นิด้าโพลชี้คะแนนนิยมนายกฯลดลงต่อเนื่อง

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 30.82 ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย อันดับ 2 ร้อยละ 22.50 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 15.11 ระบุว่า พรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 9.51 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 5 ร้อยละ 7.78 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 4.86 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 7 ร้อยละ 2.68 ระบุว่า พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.93 ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.39 ระบุว่า พรรคกล้า อันดับ 10 ร้อยละ 1.14 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย และร้อยละ 2.28 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคเพื่อชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยภักดี พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย

และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/64 เดือนมิถุนายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย  พรรคกล้า และพรรคภูมิใจไทย มีสัดส่วนลดลง ในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 8.72 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 25.92 มีภูมิลำเนาอยู่ปริมณฑลและภาคกลาง ร้อยละ 18.23 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.60 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 13.53 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ตัวอย่างร้อยละ 48.91 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.09 เป็นเพศหญิง

ตัวอย่างร้อยละ 7.09 มีอายุ 18 – 25 ปี ร้อยละ 15.51 มีอายุ 26 – 35 ปี ร้อยละ 20.86 มีอายุ 36 – 45 ปี ร้อยละ 31.37 มีอายุ 46 – 59 ปี และร้อยละ 25.17 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 96.23 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.53 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 0.50 นับถือศาสนาคริสต์ และอื่น ๆ และร้อยละ 0.74 ไม่ระบุศาสนา ตัวอย่างร้อยละ 21.36 สถานภาพโสด ร้อยละ 75.17 สมรสแล้ว ร้อยละ 2.68 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ และร้อยละ 0.79 ไม่ระบุสถานภาพการสมรส ตัวอย่างร้อยละ 29.48 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 33.35 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 6.59 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 23.84 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ร้อยละ 5.45 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 1.29 ไม่ระบุการศึกษา

ตัวอย่างร้อยละ 9.22 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 13.63 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 19.97ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 14.67 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.06 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 23.29 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน ร้อยละ 2.92 เป็นนักเรียน/นักศึกษา และร้อยละ 1.24 ไม่ระบุอาชีพ

ตัวอย่างร้อยละ 22.79 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 24.93 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 22.35 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาท ร้อยละ 9.41 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท ร้อยละ 4.56 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 –  40,000 บาท ร้อยละ 5.90 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 10.06 ไม่ระบุรายได้

Leave a Comment