พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” ณ โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม ต.ห้วยยาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมการตรวจเยี่ยม โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกราบนมัสการพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม พร้อมรับทราบรายงานการดำเนินงานแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม จากพระปัญญาวชิรโมลี โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นการนำความรู้ทางวิชาการมาบวกกับหลักธรรมเข้ามาใช้ในการดำเนินโครงการฯ จนเกิดผลเป็นรูปธรรม ประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง รวมทั้ง ได้มีนำระบบ Internet of Things เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการดำเนินโครงการทั้งระบบ เพิ่มความรวดเร็วและประหยัดต้นทุนด้วย
นายกรัฐมนตรีชื่นชมการดำเนินโครงการแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม ซึ่งได้น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของรัชกาลที่ 9 และพระปฐมบรมราชโองการรัชกาลที่ 10 สืบสาน รักษา และต่อยอด ศาสตร์พระราชา และโครงการตามพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 มาดำเนินโครงการฯ และเกิดเป็นโครงการพัฒนาแบบร่วมมือกัน “บวร” คือบ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นการสร้างพลังจากท้องถิ่นที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งจากพื้นที่ รวมทั้งโครงการ “โคก หนอง นา” นโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้นที่จะทำน้อยให้ได้มาก พร้อมขอให้มีการขยายการดำเนินการเรื่องพลังงานทดแทนให้มากยิ่งขึ้นตามศักยภาพที่มีอยู่ ควบคู่กับการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้มีการวางแผนเรื่องการบริหารจัดการขยะให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่
นายกรัฐมนตรียังกล่าวขอบคุณนักเรียนและทุกคนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยการเดินทางมาวันนี้ นายกฯ ให้ความสำคัญในการตรวจเยี่ยมการดำเนินการของแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม ซึ่งได้รับทราบผลการดำเนินงานจากพระปัญญาวชิรโมลีแล้ว ก็รู้สึกชื่นใจ และดีใจที่การดำเนินการมีความก้าวหน้าเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ประชาชนได้ประโยชน์ และย้ำว่าสิ่งรัฐบาลได้วางแผนดำเนินการในวันนี้ เป็นการวางรากฐานและส่งผลสำหรับเด็กและเยาวชนได้ใช้ประโยชน์ในอนาคต
“วันนี้โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่เป็นปัญหาทั้งโลก ผมเปิดไปดูไม่เคยโกรธอาจจะว่าลุงเยอะหน่อย แต่ลุงรู้ว่าลุงทำอะไรอยู่ ไม่ได้ทำอะไร ลุงไม่เคยโกรธอยู่แล้ว เพราะห้ามยาก”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรีได้แนะนำเด็กนักเรียนเยาวชน ให้เรียนและศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การพัฒนาประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต เช่น สาขาวิทยาศาสตร์ วิจัยและพัฒนา ฯลฯ และสอดคล้องกับเทคโนโลยีและทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งให้ศึกษาเรียนรู้ยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้าน โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าตามนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและงบประมาณที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ แบ่งเป็นช่วงละ 5 ปี โดยในช่วง 5 ปีแรกภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รัฐบาลดำเนินการจนเกิดผลเป็นรูปปธรรม เช่น เรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ ของประเทศ และการบริหารจัดการแหล่งน้ำต่าง ๆ ทั้งระบบ เป็นต้น ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไว้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่กำหนดร่วมกัน ทั้งเรื่องความมั่นคง รักษาสิ่งแวดล้อม ขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ การเตรียมการปฏิรูประบบราชการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเด็กและเยาวชนในวันนี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมระบบสมาร์ทกริดศรีแสงธรรม ERC Sandbox การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการจัดการศึกษาแบบไตรสิกขา บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานและการเกษตรของโรงเรียนศรีแสงธรรม ก่อนเดินทางไปยังวัดป่าศรีแสงธรรม เพื่อพบปะเครือข่ายโคก หนอง นา ของวัดป่าศรีแสงธรรมและจิตอาสาพัฒนาชุมชน ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเพอร์มาคัลเจอร์ (ทําหลุมปลูกป่า ห่มดิน ให้ปุ๋ยแห้ง ปุ๋ยน้ำ) และเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ “คนติดดิน การสร้างบ้านดินด้วยเทคนิคเอิร์ธแบก” และฐานการเรียนรู้ “คนมีไฟ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ควบคุมระบบการเปิด-ปิด ด้วยระบบ IOT เพื่อรดน้ำต้นไม้เป็นสมาร์ทฟาร์มในโคก หนอง นา” รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ปล่อยแหนแดงเป็นปุ๋ยพืชสด ก่อนเดินทางโดยรถรางไปยังโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ และช่วยเหลือชุมชน ในยุคโควิด-19