รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการรัฐศาสตร์ และกฎหมายมหาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการ Suthichai Live ประเด็นพรรคการเมืองปรับทัพเตรียมรับการเลือกตั้ง ? โดยระบุว่า โอกาสที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 3-4-5 คือ 3 เงื่อนไข 4 สัญญาณ 5 สิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
3 เงื่อนไขประกอบด้วย
1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ บัตรเลือกตั้งสองใบก็เรียบร้อยเตรียมที่จะประกาศใช้
2.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 มีการขับเคลื่อนงบประมาณลงพื้นที่แล้ว
3. การแต่งตั้งโยกย้ายราชการประจำผ่านไปได้เรียบร้อย
4 สัญญาณ
1.คลายล็อกเป็นการเปิดพื้นที่ทางการเมืองเพื่อหาเสียง
2.นายกรัฐมนตรี 3 ป (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ )ลงพื้นที่
3.พรรคการเมืองเคลื่อนไหว
4.การเลือกตั้งท้องถิ่น
5.สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้้อต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
1.โควิด-19 ยังอยู่อีกยาวนาน
2.ปัญหาเศรษฐกิจ
3.เอกภาพภายในพรรคพลังประชารัฐ ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ
4.เรื่องการบริหารจัดการเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีหลายพรรคจึงต้องมีข่าวเรื่องแจกกล้วย
5.ปัญหาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี เดือนสิงหาคม พ.ศ.2565 อาจจะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีว่าจะเริ่มจับปี 2557 ที่เข้ารับตำแหน่งหลังรัฐประหาร หรือเริ่มนับปี 2560 ที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ หรือนับวันที่เข้ารับตำแหน่งหลังการเลือกตั้งปี 2562
รศ.ดร.ยุทธพร ประเมินว่า หากจะมีการยุบสภาคงไม่เกิดขึ้นในปีนี้ อย่างเร็วน่าจะเกิดขึ้นหลังปีใหม่ เพราะต้องรอการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไข
ส่วนปัญหาการสังกัดพรรคการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้งหากมีการยุบสภานั้น รศ.ดร.ยุทธพร ระบุว่า ผู้สมัครต้องสังกัดพรรคการเมือง 90 วันนั้น เป็นกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรอยู่ครบเทอม และต้องจัดการให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน หากเป็นการยุบสภากำหนดให้สังกัดพรรคเพียง 30 วัน และจัดให้มีการเลือกตั้ง 45 ไม่เกิน 60 วัน
“ความสัมพันธ์ของ 3 ป แตกแต่ไม่แยก คือแตกกันทางความคิดเรื่องการใช้บุคลากร อย่างไรก็แยกกันไม่ได้ หาก 3 ป แยกคือจุดจบของรัฐบาล”รศ.ดร.ยุทธพร กล่าว ขณะนี้กติกาที่ 3 ป ใช้ต่อรองกับนักการเมืองลดลงเลื่อย ๆ ไม่เหมือนยุค คสช. ถ้า 3 ป แยกกันจะลำบาก