ผู้ว่ากทม.สั่งคุมเข้มตรวจอาวุธก่อนเข้าเรียน หลังเกิดเหตุสลด นักเรียน ม.2 ถูกเพื่อนแทงเสียชีวิตภายในโรงเรียน

29 มกราคม 2567 เกิดเหตุสลด นักเรียนชายชั้น ม.2 ถูกแทงเข้าบริเวณท้องและคอ อาการสาหัส ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซอยพัฒนาการ 26 และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลต่อมา

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเช้า เวลาประมาณ 08.40 น.เห็นเด็กชายวิ่งออกมาจากภายในอาคาร มีบาดแผลถูกแทงบริเวณลำคอและล้มลงที่สนามกีฬา หน้าอาคาร และมีเด็กชายผู้ก่อเหตุที่ใช้มีดแทงวิ่งตามออกมา จึงรีบเข้าไปช่วยปฐมพยาบาล และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลืออีกทาง ซึ่งนักเรียนที่บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุ เป็นนักเรียนชั้น ม.2 ด้วยกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันมาก่อน

ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่รับแจ้งเหตุรีบเดินทางมาช่วยเด็กเป็นการด่วน แต่ทำได้เพียงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ไม่สามารถยื้อชีวิตของเด็กชายได้ ในที่สุดเด็กชายผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีด เจ้าหน้าที่ตํารวจคุมตัวนักเรียนที่ก่อเหตุเพื่อทําการสอบปากคําพร้อมกับทีมสหวิชาชีพ

ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษนั้น จากการพูดคุยเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุพูดคุยรู้เรื่องสามารถตอบคําถามได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป จะต้องส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดว่า เข้าข่ายเป็นเด็กพิเศษจริงหรือไม่ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การทํานองว่า มีปัญหาทะเลาะกัน แต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร จะทำการสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเพื่อนร่วมชั้น ทุกคนยืนยันว่าทั้งคู่เล่นกันตามปกติ แต่อาจจะมีการหยอกล้อกันจนเกิดความไม่พอใจและก่อเหตุขึ้น

ด้านผู้อํานวยการโรงเรียนยืนยันว่า ทางโรงเรียนมีมาตรการความปลอดภัย โดยการสุ่มตรวจอาวุธอยู่เป็นประจํา แต่ยอมรับว่าการจะตรวจค้นเด็กทุกคนเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนเรื่องของการบูลลี่ยืนยันว่า ไม่มีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุถูกบูลลี่ ปกติแล้วทางโรงเรียนจะไม่ใช้ความรุนแรงกับนักเรียน จะใช้เหตุผลในการพูดคุย จากการสอบถามครูประจําชั้นพบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมรุนแรงเพียงแต่ชอบเล่นและอยู่คนเดียวเท่านั้น

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.พื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์และได้เรียกประชุมคณะครูและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อรับทราบถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และได้กำชับการตรวจค้นและเข้มงวดกับเด็กนักเรียนเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกภายในอนาคต
ผู้ว่าฯกทม.ระบุอีกว่า เบื้องต้น ประเด็นของการบูลลี่เด็กพิเศษ ขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน ทั้งนี้ กทม.มีโรงเรียนมัธยม 1 – 6 เพียง 9 แห่ง และโรงเรียนมัธยม 1 – 3 กว่าร้อยโรงเรียน จะต้องดูแลอย่างเข้มงวดเพราะนักเรียนวัยนี้เกิดความขัดแย้งได้ง่าย โดยจะเข้มงวดในการตรวจอาวุธให้มากขึ้น

ฮอนด้า แอคคอร์ด

ที่สุดแห่งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนระดับพรีเมียม