นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก วันนี้ (11 ต.ค. 64) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับลดการระบายน้ำลงสู่ด้านท้ายเขื่อนเหลือ 451 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักบริเวณด้านท้ายเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ลดลง 1.33 เมตร
อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ลดลง 97 เซนติเมตร
อ.เมือง จ.สระบุรี ลดลง 78 เซนติเมตร
อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง 46 เซนติเมตร
และจะระบายน้ำส่วนหนึ่งเข้าคลองระพีพัฒน์ประมาณ 163 ลบ.ม./วินาที และควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในอัตรา 676 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน ลดลง 33 เซนติเมตร ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้านลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มลดลงทุกสถานี โดยที่สถานีวัดน้ำท่า C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,371 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง ก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งกรมชลประทานได้ใช้คลองชลประทานทั้ง 2 ฝั่งรับน้ำเข้าไปรวม 360 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงเล็กน้อยประมาณ 6 เซนติเมตร ในขณะที่ได้ลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเหลือ 2,520 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนลดลง ดังนี้
อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ลดลง 5 ซม.
อ.เมือง จ.อ่างทอง ลดลง 3 ซม.
สำหรับคลองชัยนาท-ป่าสัก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการระบายน้ำท่วมขังพื้นที่ฝั่งซ้ายของคลองในเขต อ.บ้านหมี่ และ อ.เมือง จ.ลพบุรี ภาพรวมลดลงต่อเนื่องเฉลี่ยวันละประมาณ 10 เซนติเมตร
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ ที่จะทำให้มีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุ “ไลออนร็อก” และติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา