365 วันยังน้อยไป ! ททท.ภาคตะวันออกลุยแผนท่องเที่ยว 366 วันมหัศจรรย์เที่ยวไทย เที่ยวได้ทุกวัน โชว์จุดเด่นครบทั้ง 12 เดือน ชูจุดแข็งมีซอฟต์เพาเวอร์ครบ 5F เป็นจุดขาย ดึงนักท่องเที่ยว เที่ยว 9 จังหวัดภาคตะวันออกตลอด 366 วันในปี 2567
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แคมเปญ “365 วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” นั้น ทาง ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ขอใช้คำว่า “366 วัน” เพื่อความน่าสนใจ ด้วยในปี 2567 นี้ เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน โดยเน้นทำตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ทุกวันทั้ง 366 วัน เราได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวให้เป็นรายเดือน ทาง ททท.พยายามใส่ความน่าสนใจลงไปในทุกวัน เพื่อให้มีจุดขายทั้ง 366 วัน โดยแต่ละเดือนจะมีอีเวนท์ มาร์เก็ตติ้ง หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ เดือนมกราคม เน้นการท่องเที่ยวรับปีใหม่ เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว สุขทันทีที่เที่ยวภาคตะวันออก 366 วัน เที่ยวรับส่งตะวัน ดูพระอาทิตย์ขึ้น ชมพระอาทิตย์ตก ที่ไหนที่มีความสวยงาม ซึ่งภาคตะวันออกก็มีที่เกาะสีชัง เกาะเสม็ด
เราพยายามให้แต่ละจังหวัดภาคตะวันออกมีไฮไลท์ที่แตกต่างกันออกไป ปีใหม่ไปไหว้พระ แก้ชงที่ไหน เดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักและเทศกาลตรุษจีน ภาคตะวันออกเป็นเมืองท่าศูนย์กลางการสัญจรทางน้ำไปยังจีน ญี่ปุ่น มีศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นความเชื่อเกี่ยวกับน้ำเป็นหลัก การพัฒนาบ้านเรือนเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส และภาคตะวันออกให้ความสำคัญกับเทศกาลตรุษจีน จึงมีศาลเจ้าอยู่หลายแห่ง อย่างศาลเจ้านาจาที่บางแสน เป็นต้น
ส่วน เดือนมีนาคมเข้าสู่ฤดูร้อน เราต้องแข่งขันกับภาคใต้ พยายามดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดภาคตะวันออก โดยแผนท่องเที่ยวจะเน้นแคมเปญ หนีร้อน เที่ยวสีสันตะวันออก ซึ่งจะเน้นขายแต่ทะเล ชายหาดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องขายแม่น้ำด้วย เช่น สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา จันทบุรี นครนายกต่างก็มีแม่น้ำ เราจึงเน้นเรื่องทะเลสวย สายน้ำ 9 จังหวัดควบคู่กันไป เติมสีสันให้ภาคตะวันออก หวังดึงนักท่องเที่ยวจากภาคกลาง ภาคอีสานและจาก กทม.มาเยี่ยมเยือน
เดือนเมษายน ชูเทศกาลสงกรานต์ ตอบรับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งสัญญาณให้มีสงกรานต์ 77 จังหวัดตลอดทั้งเดือน เน้นประเพณีสงกรานต์ภาคตะวันออก วันไหลชลบุรี ระยองเที่ยวได้ทั้งเดือน ยกตัวอย่างที่สวนนงนุช ชลบุรี จะมีการจำลองบรรยากาศงานสงกรานต์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเล่นน้ำสงกรานต์กันได้ทุกวันตลอดทั้งปี โดยภาคตะวันออกจะมีประเพณีสงกรานต์ที่แตกต่างกัน อย่างเช่น สงกรานต์มอญพระประแดง ที่บางแสนเราทำสงกรานต์ข้ามชาติ มีการลงเอ็มโอยูกับเกาหลี ซึ่งตอนนี้ตลาดภาคตะวันออกเริ่มเติบโตขึ้น ดึงเทศกาลโคลนของเกาหลีมาจัดกิจกรรมใหม่ นำโคลนที่ทำเครื่องสำอางมาเล่นสงกรานต์ ทำเป็นกิมมิคสงกรานต์ข้ามชาติ โดยคาดหวังที่จะสร้างเป็นชุมชนของนักท่องเที่ยวเกาหลีที่บางแสนได้ ตอนนี้เที่ยวที่ไหนก็ร้อนเราคิดจะเปิดการเที่ยวทะเลกลางคืนที่หาดบางแสน พัทยา เป็นต้น
ต่อไป เดือนพฤษภาคมมีจุดขายเกี่ยวกับฤดูกาลผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด เดือนมิถุนายนเข้าฤดูฝน เราเน้น 9 ที่เที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออก ยกตัวอย่างเช่น เกาะสีชังเป็นอันซีนเป็นเกาะแห่งความรัก ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น เกาะแห่งการรักษา นักท่องเที่ยวสามารถทำปะการังเทียม ปล่อยปู โดยเฉพาะฤดูฝน ทะเลภาคตะวันออกจะไม่เหมือนทะเลภาคใต้ ซึ่งเกาะสีชังสามารถเที่ยวได้ทั้งปี ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เดือนกรกฎาคมมีเทศกาลประเพณีเข้าพรรษา เน้นเที่ยววัดสวย ๆ เดือนสิงหาคมมีวันสำคัญคือ “วันแม่” จัดกิจกรรมสิงหาพาแม่เที่ยว เดือนกันยายนเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการประชุมสัมมนาต่าง ๆ เดือนตุลาคมมีเทศกาลกินเจ ออกพรรษา เดือนพฤศจิกายนเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว อากาศเริ่มหนาวเย็นสบาย เดือนธันวาคมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมแล้วเที่ยวได้ครบทั้ง 366 วันในภาคตะวันออก
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก กล่าวว่า ภูมิภาคภาคตะวันออกมีจุดแข็งของ soft power 5F อย่างแรกคือ อาหาร (Food) เรามีชื่อเสียงเรื่องอาหารหลากหลาย มีอาหารทะเลขึ้นชื่อ , แฟชั่น (Fashion) เรามีห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยไว้รองรับนักท่องเที่ยว , ศิลปะป้องกันตัว (Fight) มีค่ายมวยไทยที่พัทยา นอกจากนี้ ภาคตะวันออกมีกิจกรรมประเพณี (Festival) ครบทั้ง 12 เดือน , ภาพยนตร์ (Film) พัทยาเองได้รับการประกาศเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง เป็น Location สำคัญ หรือเป็นการถ่ายแบบทำคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังมี Theme Park อย่าง Mini Siam ที่พัทยา ซึ่งเป็นเมืองจำลองที่นำเอา Landmark ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่
“ททท.ภาคตะวันออกพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้การต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งใส่ใจให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ให้สมกับที่เมืองไทยได้รับการขนานนามว่าเป็น “สยามเมืองยิ้ม” ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศเรา” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก กล่าว.