วันนี้ (26 ธันวาคม 2566) เวลา 15:40 น. ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นทึ่ โดยมี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้ มีทั้วผู้สูงอายุและเด็กเข้าพักพิง กว่า 200 คน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่เริ่มลดลง ซึ่งวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากกระทรวงมหาดไทยได้ลงมาดูแล ซึ่งเข้าใจว่าน้ำมาเร็ว มาแรงและมาเยอะกว่าปกติ แต่การระบายก็เป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่รัฐบาลต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้นในแง่ของการเตือนภัย เนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ พร้อมกับกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนให้ดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ก่อนที่จะเดินไปทักทายให้กำลังใจกับผู้สูงอายุและผู้ประสบภัย พร้อมพูดคุยกับทีมแพทย์ที่มาตั้งหน่วยบริการสาธารณสุข โดยนายกฯ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคน ที่ทำงานอย่างเต็มทึ่ ยอมทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบยาอาหารสัตว์พระราชทาน ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก่ตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ และเยี่ยมโรงครัวของกองทัพบกที่มาตั้งรถให้บริการอาหาร
แก่ผู้ประสบภัย
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งอยู่ใกล้กับคลองตันหยงมัส และเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมรองเท้าบูทเดินลุยน้ำ เพื่อไปพูดคุยกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย
ภายหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า หากย้อนไป 36 ชั่วโมงก่อนหน้า สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ ซึ่งบริเวณที่สูงและที่ต่ำมีความแตกต่างกัน การไหลของน้ำลงสู่ทะเลที่รับน้ำเป็นไปด้วยดี ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลาย แต่น้ำมีการสะสมบริเวณปลายน้ำ โดยนายเกรียงฯ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจะอยู่ดูแลภาพรวมทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้น้ำมาเร็ว ซึ่งจากการพยากรณ์อากาศ ถือว่าโชคดีเนื่องจากจะไม่มีฝนแล้ว แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ จึงต้องระมัดระวังให้ดี ต่อไปจะต้องดูเรื่องระบบเตือนภัยให้ครบวงจร ทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการเตือนภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถือว่าเยอะที่สุด ซึ่งหากจะโยงการบริหารจัดการในพื้นที่ 3 จังหวัด ในเรื่องของความสงบดีขึ้นแล้ว การค้าขายชายแดนระหว่างเรากับมาเลเซียก็ดีขึ้นแล้ว เหตุการณ์นี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมจัดการ ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยและสาธารณสุขจะต้องระวังเรื่องโรคระบาดทั้งหลาย
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีโครงการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากในพื้นที่เกิดอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง นายกฯ กล่าวว่า จะต้องดูองค์รวมทั้งหมดว่าสามารถแก้ไขได้แค่ไหน และมีโครงการขนาดใหญ่หรือไม่ แน่นอนว่าเรายังไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำซาก และเกิดการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้น ขอฝากพี่น้องประชาชน หากมีการเตือนภัยขอให้เชื่อกันหน่อยต้องระวังต่อไป เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ปลอดภัย ขอให้ ระมัดระวังให้ดี ฟังการเตือนภัยให้ดี ระหว่างนี้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามช่วยดูแลและเยียวยา ขอขอบคุณหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน ที่ช่วยสละเวลามา และกองทัพเองก็มาทำครัวเคลื่อนที่ ช่วยบรรเทาไปได้มาก
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวกับผู้ว่าฯนราธิวาส ว่า ตนเองไม่อยากที่จะมาในเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะมาดูแลด้านการค้า เพราะสิ่งต่างๆ กำลังเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งเรื่องความสงบก็ดีขึ้น ด้านความมั่นคงก็มีการเจรจากับมาเลเซียได้ดีขึ้น พอเราเปิดการค้าชายแดนดีขึ้น ตนเองอยากมาทำกิจกรรมและจัดเทศกาลในพื้นที่ให้มากขึ้น