ที่สถานีกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนี้ จากการให้บริการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมถึง 2 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะและในรูปแบบองค์กรแล้วจำนวน 100,747 โดส ส่วนในวันนี้ตั้งเป้าการให้บริการไว้ที่ 19,000 คน (ข้อมูลถึงเวลา 11.30 น) ฉีดไปแล้วจำนวน 5,601 คน
นายอนุทินกล่าวต่อว่าในการให้บริการประชาชนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ กรมการแพทย์โดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งชาติได้ระดมบุคลากรในสังกัดมาให้บริการประชาชนทุกวัน ประมาณ 400 คนต่อวันทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทีมสนับสนุน เช่น ฝ่ายไอที เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีทีมสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งจาก สังกัดกระทรวงคมนาคม และจิตอาสา คอยให้บริการประชาชนที่ได้รับการลงทะเบียนเข้ามาทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 20.00 น.
“การฉีดวัคซีน โควิด 19 ถือเป็นภารกิจสำคัญของประเทศและกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้ เนื่องจากจะไม่มีใครปลอดภัยหากทุกคนยังไม่ปลอดภัย ซึ่งทราบดีว่าบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต้องทำงานหนัก จึงขอขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละทำงานเพื่อประชาชนให้เกิดความปลอดภัยจากโรคโควิด 19” นายอนุทินกล่าว
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ทยอยจัดส่งวัคซีนโควิด 19 ไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว โดยสัปดาห์นี้จัดส่งวัคซีนทั้งของแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวครวมแล้วประมาณ 2 ล้านโดส ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีวัคซีนโควิด 19 ฉีดให้แก่ประชาชน ยืนยันว่าทุกจังหวัดจะมีวัคซีนโควิด 19 ฉีดในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นวันคิกออฟฉีดวัคซีนโควิด 19 จำนวนมากพร้อมกันทุกพื้นที่ตามนโยบายของ ศบค.และนายกรัฐมนตรี
“การจัดส่งวัคซีนจะทยอยจัดส่ง โดยจังหวัดที่อยู่ไกล การขนส่งลำบาก จะมีการจัดส่งไปก่อน ซึ่งขณะนี้หลายจังหวัดได้รับวัคซีนแล้ว เช่น เขตสุขภาพที่ 1 , เขตสุขภาพที่ 7 เป็นต้น ส่วนบางพื้นที่ยังอยู่ระหว่างการขนส่ง โดยจะทยอยส่งไปเรื่อยๆ เป็นรายสัปดาห์ ซึ่งการจัดส่งมีความยืดหยุ่นสามารถปรับให้เหมาะสมได้ตามสถานการณ์ โดยตลอดเดือนมิถุนายนจะมีวัคซีนจัดส่งไปประมาณ 5-6 ล้านโดส” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว
ทั้งนี้ การจัดสรรวัคซีนขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่มีและความต้องการในการฉีดบนหลักการทั่วถึงและเป็นธรรม คือ จัดสรรวัคซีนให้ทุกจังหวัด และปรับเกลี่ยโดยพิจารณาทั้งอัตราส่วนวัคซีนต่อประชากร พื้นที่ระบาด ซึ่งจังหวัดที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 มากกว่าจะได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่สูงกว่าจังหวัดที่มีการระบาดน้อย และพื้นที่จำเพาะตามนโยบายด้วย เช่น พื้นที่ท่องเที่ยว เป็นต้น