นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายเศรษฐกิจ ในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ความเห็นในFB CARE คิด เคลื่อน ไทย โดยระบุว่า “…โลกถูกทำให้เกิดสงครามเศรษฐกิจ โดยใช้สงครามจริงเป็นฉากหน้า…”
ผมว่าปัญหาของประเทศไทย ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ แต่เป็นสงครามเศรษฐกิจ เพราะโลกถูกทำให้เกิดสงครามเศรษฐกิจ โดยใช้สงครามจริงเป็นฉากหน้า
สงครามเศรษฐกิจกำลังเกิดขึ้นและรุนแรง ไม่ใช่แค่ปุ๋ย เพราะปุ๋ยเรามาจากรัสเซีย แต่มีพวกอลูมิเนียมที่เรานำเข้ามูลค่ากว่า 900 ล้านเหรียญ เราผลิตอาหารกระป๋องส่งออกแต่เรากลับกำลังมีปัญหาเรื่องอลูมิเนียม ราคาปุ๋ยขึ้นอยู่แล้ว ราคาก๊าซขึ้นอยู่แล้ว
ผมอยากให้ช่วยกันคิดอย่างสงบ อย่าตื่นเต้น เรากำลังเข้าสู่สถานะเศรษฐกิจในสภาวะกึ่งสงคราม การบริหารเศรษฐกิจในกึ่งสภาวะสงครามเราจะใช้วิธีคิดแบบปล่อยไปสบายๆแบบนี้จะไหวไหม จะจัดการกับมันอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงและรีบจัดการ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล
เราต้องคิดว่าเราจะส่งออกไปรัสเซียยังไง ท่านประธานการค้าไทยรัสเซีย น่าจะพูดเร็วเกินไปว่า ให้ส่งผ่านประเทศจีน ใช้ระบบจ่ายเงินผ่านจีน พูดไม่ทันขาดคำ รัฐมนตรีคลังกับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาขู่ว่า เงินแม้แต่คริปโต เขาก็รู้หมดว่าใครใช้จ่าย เขาจะเล่นงานให้หมด
ผมอยากจะบอกว่า อยากให้ช่วยกันคิดได้แล้ว ว่าจะทำยังไง อย่าทำเป็นเรื่องเล่นๆ ไป เรื่องนี้สำคัญมา
ขณะที่ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ คอลัมนิสต์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเศรษฐกิจ” ระบุว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นยาก หนี้ครัวเรือนสูง ที่อื่นอย่างน้อยประชาชนเขายังมีกำลังซื้อ…”
เงินเฟ้อตอนนี้ ส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจริง ๆ แต่ของไทยน่าเป็นห่วงคือเศรษฐกิจไม่เข้มแข็ง ในครึ่งหลังปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นยาก เพราะคนไทยยังมีหนี้ครัวเรือนสูง นี่คือสิ่งที่น่ากลัว
ที่อื่นอย่างน้อยประชาชนมีกำลังซื้อ เมื่อเทียบกับไทยยังน่ากลัวมาก คนยังไม่รู้ครึ่งหลังปีนี้ราคาน้ำมัน ราคาปุ๋ยจะสูงขึ้น และ จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยชะงักและค่าเงินก็จะอ่อนค่า
นี่เป็นโจทย์ที่ลำบากสำหรับคนไทยที่คาดกันว่าจะมีนักท่องเที่ยวจะมา 5-6 ล้านคนเข้ามา ก็คงเป็นไปได้ยากเพราะโอมิครอน ไหนประเทศจีนที่ล็อกดาว์นคุมโอมิครอนยังไม่ได้อีก เศรษฐกิจจีนปรับตัวต่ำลงไปเยอะ ดังนั้นปัญหาของไทยไม่ใช่แค่เงินเฟ้อ แต่จะมีอีกหลายเรื่องเลย โดยเฉพาะภาคการเกษตร