ที่กระทรวงสาธารณสุข เวลา 15.00 น.นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงการค้นพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ที่แคมป์คนงานก่อสร้างหลักสี่ว่า เชื้อกลายพันธุ์จะทำให้มีการแพร่ระบาดง่ายขึ้น และทำให้มีอาการรุนแรง รวมทั้งดื้อต่อการใช้วัคซีน ขณะนี้มีเชื้อกายพันธุ์คือ สายพันธุ์แอฟริกา อังกฤษ บราซิล และอินเดีย
สำหรับเชื้อที่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ส่วนสายพันธ์อินเดียปัจจุบันมีการพบที่สิงคโปร์และมาเลเซีย รวมทั้งมีบางพื้นที่ในเมียร์มา กระทรวงจึงได้มีการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การระบาดที่แคมป์คนงานหลักสี่ วันนี้ได้ตรวจพบคนงานจำนวน 15 ราย ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย 12 ราย คือคนงานในแคมป์ก่อสร้าง อีก 3 ราย เป็นผู้สัมผัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลผู้ ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย กรมจึงส่งทีมลงพื้นที่เร่งสอบสวนการระบาดที่เกิดขึ้น
“สายพันธุ์อังกฤษอินเดีย แพร่เร็วไม่ต่างกัน รอบนี้ยังไม่ชัดเจนว่าสายพันธุ์อินเดียรุนแรงกว่า และยังไม่ดื้อต่อวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนแอนตราเซนิกา ที่ประเทศอังกฤษใช้ เพราะขณะนี้ทำให้การระบาดในอังกฤษลดลง ทั้งที่มีเชื้อกลายพันธุ์สายพันธ์อังกฤษและอินเดีย”อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
ก่อนหน้านี้นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19(ศบค.) ระบุว่า ข้อมูลวันที่ 20 พ.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมต่อพันประชากรรายเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบว่า มีการระบาดอยู่ในใจกลาง กทม. ได้แก่ คลองเตย ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก ป้อมปราบศัตรูพ่าย หลักสี่และดินแดง โดยกลุ่มก้อนการระบาดที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด ได้แก่ ที่พักคนงานก่อสร้างเขตหลักสี่ ดอนเมือง และคลองเตย ชุมชนแออัดรอบตลาดคลองเตย ตลาดห้วยขวาง ตลาดพลอยบางรัก และตลาดบางกะปิ
“กทม.ตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในแคมป์คนงานหลักสี่ โดยมีคนงาน 15 ราย เจอเชื้อสายพันธุ์อินเดีย B1.617.2 ซึ่งอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลอย่างดี และส่งทีมสอบสวนโรคลงไปดูแลเรื่องควบคุมป้องกันการติดเชื้อต่อไป โดยสายพันธุ์อินเดีย เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีการรายงานในหลายประเทศ และของเราก็เริ่มมีเข้ามา โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค จะให้ข่าวในเชิงลึกต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรี รับทราบและกำชับให้กับกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่อย่างเต็มที่” นพ.ทวีศิลป์กล่าว