เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พบว่า ปริมาณน้ำยังคงท่วมสูงบางพื้นที่ในหมู่บ้านมีน้ำขัง รอการระบายลงสู่ทะเล ชาวบ้านกว่า 60 หลังคาเรือนในหมู่ที่ 8 ได้รับความเดือนร้อน โดยบางจุดน้ำท่วมสูงถึง 2 – 3 เมตร ถนนตัดขาดต้องใช้เพียงเรือเป็นยานพาหนะในการเข้า – ออกหมู่บ้าน ทางกองทัพภาคที่ 4 โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43, กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 และหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มอบถุงยังชีพ และจัดหาน้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นอื่น ๆ จัดตั้งรถครัวสนาม และช่วยอพยพพี่น้องประชาชนออกมายังศูนย์พักพิงชั่วคราว สำหรับพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงได้นำเสบียงของใช้ต่าง ๆ อาทิ ถุงยังชีพ ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ใส่เรือท้องแบนร่วมกับชุดมูลนิธิร่วมกตัญญูโดย คุณ ท็อป-บิณฑ์ และไทด์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ นำทีมอาสาสมัครร่วมให้การช่วยเหลือ นำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถออกมาได้ พบว่าระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร นอกจากนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เน้นย้ำกำลังพลถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ โดยรอบอีกด้วย
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลปะกาฮารัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี กองทัพภาคที่ 4 ได้ให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43, กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 และหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันแรก เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำในทุกปี แต่ครั้งนี้นับว่าหนักสุดในรอบหลายปี โดยได้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้ง มอบถุงยังชีพ และจัดหาน้ำดื่ม ยาสามัญ และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในขั้นต้นแล้ว
กองทัพภาคที่ 4 ได้มีการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว และได้จัดหาอาหาร น้ำดื่ม พร้อมทั้งเครื่องใช้จำเป็นเร่งด่วนที่สุด และในขณะที่หน่วยทหารที่ได้ลงพื้นที่มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้น ก็ทราบว่ามีบ้านเรือนของกำลังพลที่อยู่ในพื้นที่ได้รับความสียหายเช่นกัน ขอให้ทุกหน่วยได้เร่งสำรวจกำลังพลที่ได้รับความเดือนร้อน และเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน ขอให้หน่วยกระจายความช่วยเหลือไปให้ทั่วถึงยังผู้ประสบภัยทุกคน หากไม่สามารถออกมารับได้ จำเป็นต้องใช้เรือแจกจ่ายตามบ้านแม้เสียเวลาหน่อยก็ต้องทำ และหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นน้ำลดระดับลง การฟื้นฟูจะเริ่มขึ้นทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับไปยังที่พักอาศัยของตนได้อย่างรวดเร็วที่สุด ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันในทุก ๆ สถานการณ์ เชื่อว่าเราต้องผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน
ขณะที่ หมู่ที่ 4 บ้านดูซง ตำบลซากอ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส สภาพร่องรอยความเสียหายจากกระแสน้ำที่พัดมาด้วยความแรง น้ำท่วมสูงกว่า 5 เมตรจนมิดหลังคา ทำให้บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนพังเสียหายหลายหลัง หนึ่งในนั้นคือบ้านของ พลทหารฮาเซ็ง บิลอาแว ทหารกองประจำการสังกัดกรมทหารราบที่ 5 ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จากการสอบถามทราบว่า หลังมีการแจ้งเตือนจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้รีบอพยพของขึ้นที่สูง แต่น้ำที่มาด้วยความเร็วและแรง ทำให้การอพยพเป็นไปได้ยากลำบาก แต่ก็สามารถนำพ่อที่แก่ชราออกจากบ้านมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวได้อย่างทันท่วงที โดยหลังน้ำลดระดับลงจึงทราบว่าบ้านได้พังถล่มเสียหายทั้งหลังของเครื่องใช้ในบ้านเสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงนำกำลังใจมามอบให้พร้อมช่วยเหลือในทันที โดยทางหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 และหน่วยในพื้นที่จะได้นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เข้าซ่อมแซม ปลูกสร้างบ้านพักอาศัยให้ใหม่ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ตลอดจนชาวบ้านโดยรอบ หลายหลังก็ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ทุกส่วนจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว