เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 09.55 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกฯ ยินดีที่ได้มารับฟังข้อคิดเห็นของสมาชิกฯ ทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาตอบข้อสงสัยหรือหากมีประเด็นใดที่ยังไม่ชัดเจน รัฐบาลก็จะพยายามตอบโดยรัฐมนตรีทุกคนพร้อมที่จะให้ความกระจ่าง หรือหากสมาชิกมีข้อเสนอแนะ ก็จะนำไปปฏิบัติให้ได้ผลเป็นรูปธรรม ซึ่งยินดีได้มารับฟังวันนี้ และจะให้เวลา 2 วัน ที่จะได้มีการพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ประชาชนที่รับฟังอยู่ได้รับข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง
สำหรับกรณีที่สมาชิกฯ ได้กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลในประเด็นต่าง ๆ ทั้งเรื่องของสิ้นหวัง ล้มเหลว ไม่โปร่งใส ไม่ปฏิรูป ถอยหลัง วกวน ปิดบัง ทำลาย นั้น นายกฯ ชี้แจงว่ายังมีอีกด้านหนึ่งเช่นกันไม่ว่าจะเป็นมีหวัง สำเร็จ สิทธิพัฒนา แทนที่จะเป็นปฏิรูป ต่าง ๆ เหล่านี้ ถอยหลัง ก้าวหน้า วกวน เราก็เดินหน้าไป ปิดบังเราก็มีความโปร่งใส ซึ่งหลายอย่างที่รัฐบาลนี้ทำอยู่ก็พยายามทำให้เป็นเรื่องบวก เป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของแสงสว่างที่พี่น้องประชาชนจะได้เห็น แต่ไม่เป็นไร หากยังมีข้อกังขาอยู่ในประเด็นดังกล่าวทั้งเรื่องของการปิดบัง ไม่โปร่งใส ไม่สำเร็จ ถดถอย ก็บอกมาได้ รัฐมนตรีทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้พร้อมชี้แจง จากการที่รัฐบาลทำงานมา 6 เดือน และได้มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง และพร้อมให้ความกระจ่างกับสมาชิกฯ ที่ยังไม่มีความเข้าใจกับเรื่องเหล่านี้
นายกฯ ย้ำในเรื่องของหนี้สินที่ระบุว่าไม่มีการบริหารจัดการ ว่า รัฐบาลได้มีการตั้งคณะทำงาน เข้ามาดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ ขณะที่เกษตรกรก็มีการพักหนี้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีการเพิกเฉย หรือไม่ได้ดูแลพี่น้องเกษตรกรแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของพลังงาน รัฐบาลมีการดำเนินการดูแลเรื่องของราคาน้ำมันเบนซิน ราคาค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งก็จะดูแลกันต่อไป ยืนยันรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย หรือนิ่งนอนใจว่าไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมา รัฐบาลตระหนักดีถึงเรื่องนี้
สำหรับเรื่องยาเสพติด นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลทำงานกันอย่างชัดเจน มีคณะทำงานที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระบวนการยุติธรรมต่าง ๆ โดยในไตรมาส 4 ปีของที่แล้ว เราสามารถจับยาบ้าได้มากกว่าปีก่อนนั้นทั้งปี ตรงนี้เป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ที่รัฐบาลได้มีการทำงาน และกวดขันเรื่องนี้อย่างดีและจริงจัง
นายกฯ ยังได้กล่าวชี้แจงถึงการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องของการท่องเที่ยวว่า สามารถทำให้ประชาชนมีรายได้เข้ากระเป๋ามากยิ่งขึ้น และรัฐบาลก็มีการดำเนินการอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีซ่าฟรีของประชาชนคนจีน และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ก็เป็นการพิสูจน์ ให้เห็นแล้วว่าวีซ่าฟรีไทย-จีน ได้มีการเดินหน้าไปแล้วเช่นกัน ทำให้การค้าระหว่างประเทศ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และการเดินทางไปมาหาสู่กันดีมากขึ้น ส่งผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงโรงแรมร้านอาหาร ก็มีคนเข้าจอง และมีการจับจ่ายใช้สอยเงินมากขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของประเทศต่าง ๆ ก็จะมีการยกระดับกันต่อไป
นายกฯ ย้ำว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางไปทุก ๆ ประเทศ เพื่อพยายามทำให้พาสปอร์ตไทยมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าการดำเนินการเรื่องนี้ต้องใช้เวลา แต่การพัฒนาในเรื่องนี้ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี และพี่น้องประชาชนก็ได้รับประโยชน์สูงสุด