วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จ.เชียงราย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานแถลงผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติด รายสำคัญ จำนวน 2 คดี ยึดยาบ้ารวม 7.8 ล้านเม็ด ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและขยายผลจับกุมทีมลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ได้ผู้ต้องหารวม 8 คน โดยมี พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 , นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมแแกลง และมีเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงราย ผู้นำชุมชนและประชาชนรวมกว่า 1,250 คน เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
คดีที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 01.00 – 07.00 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.5, ชุดสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ตอนใน ภ.5, ด่านตรวจจำบอน สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหา รวม 7 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 4.6 ล้าน รถยนต์ 6 คัน ที่ ทล.1020 บริเวณด่านตรวจจำบอน ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ทล.1021 บริเวณถนนเยื้อง ปตท.ภูซาง ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา, ทล.1021 บริเวณ หน้าวัดห้วยยางขาม ต.ห้วยยางขาม อ.จุน จ.พะเยา, ทล.103 บริเวณด่านตรวจนางฟ้า ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ และ ทล.11 หน้าด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน นำส่งพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตา มีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดย ฝ่าฝืนกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายใน กลุ่มประชาชน โดย ปปส.ภาค 5 ร่วมกับตำรวจ ได้ขยายผลตรวจค้น/ยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 8 เป้าหมายมูลค่ารวม 2,557,725 บาท และได้ตรวจสอบการครอบครอง/ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดิน และยานพาหนะของผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ ตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน ประมาณ 2,404,300 บาท สรุปยอดรวมทรัพย์สินที่ตรวจยึด/อายัดแล้ว กับมูลค่าทรัพย์สินจากการตรวจสอบ มูลค่าประมาณ 4,962,025 บาท
คดีที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.แม่เจดีย์ จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน พร้อมของ กลางยาบ้า จำนวน 18 เป้ บรรทุกในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน จค 677 เชียงใหม่(รถเช่า) ที่บริเวณถนน ต.บ้านแม่เจดีย์อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย อยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมรถนำ และผู้สั่งการ โดย ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับ ปปส.ภาค 5 ได้ขยายผลตรวจค้น/ยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง สามารถยึดอายัดทรัพย์สิน เบื้องต้น ได้ 5 รายการ เช่น รถบรรทุก บัญชี ธนาคาร โทรศัพท์มือถือ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีธนาคาร และทรัพย์สินอื่นเพิ่มเติม พร้อมอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมรถนำ และผู้สั่งการ
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ กล่าวว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดและถือว่าเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน. 2565 ที่สโมสรทหารบก มีแนวทางให้เพิ่มความเข้มข้น ควบคุม การนำเข้า ส่งออก สารเคมี คือ โซเดียมไซยาไนด์ เบลซิลคลอไรด์ และเบนซิลไซยาไนด์ มีการขยายผลทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ด้วยการยึด อายัดทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรทางการเงิน ค้นหาผู้ติดยาเสพติด เพื่อส่งเข้ารับการบําบัดรักษาอย่างเร่งด่วน และเอาผิดอย่างเด็ดขาด กับเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดย ป.ป.ส. บูรณาการร่วมกับ 27 หน่วยงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมา รัฐบาลได้แก้กฎหมายยาเสพติดเน้นการยึดอายัดทรัพย์สิน โดยกระทรวงยุติธรรมขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด จำนวน 24 ฉบับ จนมาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เพื่อเพิ่มโทษกับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ให้หนักขึ้น ด้วยการยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด ตั้งคณะทำงาน ปราบปราม ยึดทรัพย์สินยาเสพติด ภายใต้ปฏิบัติการ พาลีปราบยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 โดยมี ป.ป.ส. ดีเอสไอ บช.ปส. สมาคมธนาคารไทย สำนักงานอัยการ ป.ป.ง. กรมสรรพากร ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่ออายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด โดยปีงบประมาณ 2565 อายัดทรัพย์สินได้ 11,003 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2566 รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายดำเนินการอายัดทรัพย์ 1 แสนล้านบาท จากเป้าหมายขยายผล 1,000 เครือข่าย ขณะนี้ผ่านมา 2 เดือน รวมอายัดทรัพย์สินได้ 20,717 ล้านบาท โดยคดีล่าสุด กรณีเครือข่าย ตู้ห่าว สามารถอายัดทรัพย์สินได้ 5,359.25 ล้านบาท ส่วนด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ได้ใช้กำไล EM เพื่อเฝ้าระวัง ลดการก่อเหตุ ค้นหา คัดกรอง ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และผู้มีอาการทางจิตเวชจากการใช้ ยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่การบำบัดรักษา
โดยเชิญชวนให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่เบอร์ 1386 เพื่อรับรางวัลนำจับ 5% ที่ผ่านมา มีคนโทรแจ้งเพียง 16,000 สาย แต่ชุมชนในประเทศมี 8 หมื่นกว่าหมู่บ้าน/ชุมชน ในอนาคตการแจ้งเบาะแสยาเสพติด จะใช้ระบบ Blockchain ที่ปกปิดตัวตน คนแจ้งจึงมีความปลอดภัย 100% เป็นการให้เงินรางวัลนำจับผ่าน คริปโตเคอเรนซี่ เพื่อปกปิดและป้องกันผู้แจ้งเบาะแส ช่วยให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยกล้าแจ้งเบาะแสมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คาดว่าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 จะเสร็จและเริ่มใช้งานได้